Bitcoin คือ สินทรัพย์ดิจิตอลที่ไม่ว่าใครในช่วงแรก ๆ ที่รู้จักก็สนใจจะทำกำไรจากมัน ไม่ว่าจะด้วยความเชื่อ ความเข้าใจ ความศรัทธา หรือความรู้ ใคร ๆ ก็คิดว่ามันจะทำกำไรให้ได้ทั้งนั้น เพราะจากกราฟและหลักการทำงานของมันแล้ว Bitcoin จะราคาขึ้นไปตลอดกาล เพราะ Supply ที่จำกัด แต่ Demand ที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนและไม่มีท่าทีว่าจะลด
โดยการทำกำไรจาก Bitcoin ไม่ได้มีแค่การซื้อถูก ขายแพง การเทรด หรือการเล่น Future เท่านั้น แต่ยังมีการขุด Bitcoin ที่นักขุดจะต้องใช้เครื่องขุดในการแก้ไขสมการทางคณิตศาสตร์เพื่อยืนยันธุรกรรม และจะได้รับผลตอบแทนเป็น BTC โดยในการขุดก็มีสิ่งที่เรียกว่า Bitcoin Halving ซึ่งเป็นสิ่งที่นักขุดทุกคนควรรู้
ความหมายของ Bitcoin Halving
Bitcoin Halving คือฤดูกาลของ Bitcoin ที่จากการคำนวณพลังขุดแล้วจะเกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปี ในอนาคตอาจจะเกิดขึ้นไวขึ้น หากมีนักขุดเพิ่มมากขึ้น แต่อาจจะเกิดขึ้นช้าลง หากมีนักขุดน้อยลง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือการลดอัตราการผลิตลงครึ่งนึง
โดยหลักการทำงานอย่างคร่าว ๆ ของ Bitcoin Halving คือในการขุด Bitcoin จะได้รับรางวัลน้อยลงครึ่งหนึ่ง ทุก ๆ ประมาณ 4 ปี เพราะว่า Bitcoin ไม่ได้ทำงานตามเวลานาฬิกา เพราะว่าที่จริงแล้วจะเกิดการ Halving ทุก 210,000 บล็อคซึ่งใกล้เคียงกับ 4 ปี ในปี 2008 รางวัลจากการขุด Bitcoin แต่ละบล็อกอยู่ที่ 50 เหรียญ แต่ถูกลดลงเป็น 25 เหรียญในปี 2012 และถูกลดลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดในปี 2020 รางวัลจากการขุด 1 บล็อกจะอยู่ที่ 6.25 BTC เท่านั้น
และแน่นอนว่าเครื่องขุด 1 เครื่องไม่ได้ขุดได้ 1 บล็อก แต่ขุดได้ในหลักทศนิยมที่น้อยกว่า 1 บล็อกมาก ๆ ในปัจจุบันนี้หน่วยที่นิยมใช้กันคือ MH/s หรือ Million of Hashes ที่แปลว่า 1 ในล้านของแต่ละบล็อก
ผลกระทบจาก Bitcoin Halving สู่ราคาของ Bitcoin
หากพูดกันด้วยภาษาง่าย ๆ ราคาของ Bitcoin นั้นขึ้นอยู่กับ Demand และ Supply หรือ อุปสงค์ อุปทาน นั่นแปลว่า ยิ่งความต้องการซื้อมีเยอะ แต่สิ่งที่ต้องการขายมีน้อย ราคาก็จะสูงขึ้น ดังนั้น Bitcoin จึงมี Supply อยู่ที่ 21 ล้าน BTC เพื่อป้องกันสภาวะเงินเฟ้อของ Bitcoin และทำให้ Bitcoin ยังคงมีมูลค่าที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ในกรอบเวลากราฟหลักปี เนื่องจากความต้องการที่มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ Bitcoin ที่มีนั้นมีเท่าเดิม แถมจากข้อมูลพบว่ายังน้อยลงอีกด้วย เพราะหลาย ๆ ครั้งที่ผู้ถือครอง BTC ทำ BTC หาย หรือมีการโอนเข้าไปในกระเป๋าที่ไม่มีเจ้าของ
ซึ่ง Bitcoin Halving ก็คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Supply นั้นน้อยลง เพราะเป็นการลดรางวัลที่นักขุดจะได้เรื่อย ๆ ทุก 4 ปี เมื่อไม่สามารถขุดได้ หรือขุดได้ในจำนวนน้อยมาก ๆ การที่จะได้มาซึ่ง Bitcoin ก็ทำได้โดยการซื้อเท่านั้น สรุปก็คือ ยิ่งขุดได้น้อยลง การซื้อก็จะเกิดขึ้นมากขึ้น และราคาก็จะพุ่งสูงขึ้นแต่ก็มีข้อที่ควรจะจำให้ขึ้นใจเอาไว้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน และมีความเสี่ยงเสมอ ทุก ๆ การลงครั้งใหญ่ Bitcoin สามารถติดลบระดับ 70-80% จากจุดสูงสุด ในปี 2020 เกิดเหตุการณ์ราคาถล่มในช่วง Halving ส่งผลให้นักขุดส่วนใหญ่ขาดทุนเป็นระยะเวลาหลายเดือน ทำให้หลายคนยอมแพ้ออกจากตลาด จะมีแค่กลุ่มนักขุดในประเทศที่มีค่าไฟต่ำมากเท่านั้นที่ยังพอมีกำไร
สรุป Bitcoin Halving ดีหรือไม่?
ในแง่ของราคาและการทำกำไรระยะยาว Bitcoin Halving คือสิ่งที่ทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้กำไร เพราะเป็นการลด Supply ที่ห้ามไม่ได้ และจะเกิดขึ้นแน่ ๆ แต่นักขุดหลาย ๆ คนยังคงเข้าใจผิดว่า Bitcoin Halving จะทำให้พวกเขาได้กำไรน้อยลง เนื่องจากขุดได้น้อยลง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะเมื่อขุดได้น้อยลง กำลังซื้อจากคนที่ต้องการ Bitcoin แต่ไม่อยากขุดก็จะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการขุดนั้นยากเกินไป และเมื่อกำลังซื้อมากขึ้น Bitcoin ก็จะมีราคาสูงขึ้น ดังนั้นเมื่อเกิด Bitcoin Halving สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือขุด Bitcoin ได้น้อยลง แต่มีมูลค่าที่สูงขึ้นนั่นเอง
ในแง่เศรษฐศาสตร์เมื่อ supply ของ Bitcoin นั้นมีอยู่อย่างจำกัดและหายากขึ้นเรื่อย บวกกับที่ความต้องการ Bitcoin ที่(น่าจะ)มากขึ้นจากการคนหันมาใช้มากขึ้น เพราะเริ่มตระหนักได้ว่าเงิน Fiat ในปัจจุบันนั้นสามารถพิมพ์ขึ้นมาเท่าไรก็ได้ จึงทำให้หลายคนนั้นเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ เพราะเราทำงานมาเพื่อแลกเงิน แต่กลับมีคนกลุ่มนึงที่มีอำนาจมากมายขนาดที่สร้างเงิน Fiat ออกมาได้อย่างไม่จำกัดและเลือกได้ว่าจะให้ใคร เพราะเหตุนี้จึงทำให้ Demand ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา
สรุปก็คือ Bitcoin Halving คือสิ่งที่ยังคงเอกลักษณ์และธรรมชาติของ Bitcoin เอาไว้ Supply ที่จำกัด Demand ที่สูงขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ นี่คือสาเหตุที่ทำให้ Bitcoin ถูกไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้คนทั่วโลก